วันอังคารที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2553

เชฟ CHEF

เมื่อวานนี้เผอิญได้อ่านนิตยสารเล่มหนึ่ง ที่คนใกล้ตัวเค้าซื้อมา แต่เป็นนิตยสารที่เก่าแล้วนะ  แต่มีเนื้อหาที่น่าสนใจดี ก็เลยเอามาฝากกัน มันเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับ คนที่ทำงานด้านการบริการเนี่ยล่ะค่ะ เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังอาหารทุกๆจาน นั่นก็คือ เชฟ เค้าเขียนไว้ว่าเชฟ เป็นอาชีพที่เหมือนทำงานอยู่หลังบ้าน ทำอร่อยคนก็เฉยๆ แต่ถ้าทำไม่อร่อยคนก็เรียกมาติ
Mr.John  Sloane  เค้าได้ให้คำนิยามของคำว่า เชฟ เอาไว้ว่า เชฟ  คือ ผู้ที่ต้องเสาะแสวงหาข้อมูลเพิ่มเติม ที่เป็นประโยชน์ในการทำอาหารใ ห้ออกมาดีที่สุด และต้องเรียนรู้การทำอาหารของชาติอื่นๆด้วย  โดยต้องรู้ลึกไปถึงวัฒนธรรมการกิน ของแต่ละประเทศ  ต้องค้นคว้าหาข้อมูล วัตถุดิบที่จะใช้ ต้องอัพเดทเทรนใหม่ๆ แล้วนำมาพัฒนาแนวทางของตนเองอยู่เสมอๆ แต่ พ่อครัว เป็นเพียง ผู้ที่ทำงานในครัว ทำอาหารตามตำรา ตามขั้นตอนที่ระบุไว้ให้เท่านั้น  การเป็นเชฟนั้นยังต้องเรียนรู้ทักษะในการบริหารจัดการอีกด้วยนะ คือ ต้องเรียนรู้วิธีการในการสร้างแรงกระตุ้น การจูงใจลูกทีม ในการทำงาน การบริหารลูกทีม รวมถึงการคำนวนกำไร ขาดทุน ต้นทุน ของอาหารแต่ละจาน  จะว่าไปแล้วการเป็น เชฟ ก็ไม่ง่ายเหมือนกันนะ  แต่จะว่าไปแล้วการเป็นอะไรมันก็ไม่ง่ายทั้งนั้นแหละ  แต่ก็คงไม่ยากเกินความพยายามของคนหรอก จริงมั้ยละคะ  มีคนคนนึง บอกว่า เมื่อโอกาสมันมาถึงแล้ว เราก็น่าจะลองลงมือทำดูสักครั้ง เพราะโอกาสมันไม่ได้มาบ่อยนัก  มันก็ไม่ได้เสียหายอะไร ถ้เเรจะลองพยายามทำมันให้ดีที่สุด  ดีกว่าปล่อยให้มันผ่านไปเฉยๆ แล้ววันนึง เมื่อมองย้อนกลับไป แล้วบอกว่า  เสียดายที่วันั้นเราไม่ได้ทำอะไรเลย หรือเรายังไม่ได้ลองทำเลย  มันก็คงจะแย่นะ 

1 ความคิดเห็น:

  1. อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกดี อยากให้ครูอาหารของเราทุกคนเป็นเชฟได้จัง

    ที่ผมอยากให้พวกเรานำ KM มาใช้ ก็เพราะอยากให้พวกเรารุู้จักสร้างทัศนะคติอย่างคนที่เป็นเชฟนี่แหละ คือมีความต้องการที่จะเรียนรู้ ปรับปรุงตนเองตลอดเวลา เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ และมีความสามารถในการเป็นผู้บริหารและผู้นำได้ (อย่างน้อยก็นำหรือบริหารตัวเองได้)

    ผมเคยดูหนังเรื่องหนึ่งทาง HBO แต่จำชื่อเรื่องไม่ได้ เรื่องนี้ นางเอกเป็นเชฟในภัตตาคารชื่อดังครับ เป็นคนเก่งมาก แต่เข้มงวดต่อชีวิตและงานมากเกินไป ไม่ยอมคน ใครมาว่าอาหารไม่อร่อยหรือมากวนโอ๊ยเมื่อไหร่ เธอจะต้องออกจากครัวมาอาละวาดเสมอ ต่อมาพระเอกเข้ามาเป็นลูกน้อง เขามีบุคคลิกสบายๆ ตรงกันข้ามกับนางเอกเลย ตอนแรกก็ไม่กินเส้นกัน เดือดร้อนถึงหลานสาวของนางเอก (แม่ของหลานซึ่งเป็นพี่สาวของนางเอกตาย เลยต้องมาอยู่กับน้า) ต้องเข้ามาเป็นตัวช่วย ในที่สุดก็รักกันตามฟอร์ม แต่ต่อมาก็กลายเป็นว่าพระเอกมาแย่งงานนางเอกไปเป็นเชฟแทน เลยผิดใจกัน แต่สุดท้ายก็แพ้หัวใจตัวเอง ลาออกภัตตาคาร มาช่วยกันเปิดร้านใหม่ตามความฝัน Happy Ending กันไปตามระเบียบ

    หนังเรื่องนี้มีรายละเอียดเกี่ยวกับงานของเชฟพอสมควร ดูแล้ว ทำให้เข้าใจได้เลยว่า คนเป็นเชฟนี่ ไม่ใช่แค่ทำอาหารจริงๆ

    ตอบลบ